Todayi Think

ความคิดต่างๆในวันนี้

รีวิวหนังสือดีน่าอ่าน แปลหนังสือตามอารมณ์

Todayi Pic

รวมรูปถ่ายที่ได้มาจากความตั้งใจบ้าง บังเอิญบ้าง

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

First Blood Hightlight 18/9/2013 - GG VS OMG

First blood Hightlight งวดนี้เป็นของสองทีมดังระดับโลก
ในงานแข่ง World Championship เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา
เมื่อ Gaming Gear EU [Vayne+Zyra] ปะทะกับ OMG [Renekton+Jarven IV]
ผู้ที่พลาดพลั้งเป็นใครนั้นมาดูกันได้เลย



เริ่มมา Jarvan IV เปิดด้วย  Demacian Standard 


Vayne เองก็รู้ทันจึงเดินหนีออกไปให้พ้นระยะของ Dragon Strike ในทันที


แต่คดียังไม่จบเมื่อ Renekton ที่อยู่กลางฝูงมีเนียน ตัดสินใจใช้ Slice พุ่งเข้าใส่ Vayne 


เมื่อเห็นท่าไม่ดี Zyra รีบใช้ Grasping Roots เพื่อช่วย Vayne แต่ดูเหมือนรากไม้จะงอกช้าไป
เพราะ Ruthless Predator ของ Renekton ได้กระหน่ำใส่ Vayne จนติดสตันไปแล้ว
อีกทั้ง Vayne ยังโดน Ignite เผาใส่ในพริบตาเดียวกันนั่นเอง


เมื่อต้องแก้สถานการณ์ Vayne กดบาเรียเพื่อเอาตัวรอด
พร้อมๆกับ Zyra ที่ Exhaust ใส่ Renekton  เพื่อลดดาเมทให้มากที่สุด


Renekton บอก Exhaust แล้วกลัวที่ไหน พี่ไม่เดิน
พี่พุ่งด้วย Dice ไปดักทางถอยของ Vayne ก็ได้
...งานนี้ท่าทาง Vayne จะรอดยากแล้ว


Renekton บอกอีกว่า Exhaust มันฟันช้า แต่ Cull the Meek พี่เป็นสกิลเว้ย
ใจป่าว? พี่ไม่ฟัน พี่สปินเอาเลย!! แถม Jarvan IV ทื่หลุดรากไม้ก็เดิมดุ่มๆมาแล้ว
 (ในชอทนี้บาเรีย Vayne ใกล้แตกเต็มที)


Jarvan IV ระเบิด Golden Aegis จนบาเรียของ Vayne ระเหิดไปในที่สุด
สองหนุ่มรุมอยู่ข้างหน้า แล้ว Vayne จะทำอย่างไร เมื่อ Zyra เริ่มฉีกหนีเอาชีวิตรอดแล้ว


Vayne เสี่ยงใช้ Flash แม้ทางถอยจะเต็มไปด้วยทรชนทั้งสอง
แต่ระยะของ Flash ก็เรียกได้ว่าไกลพอที่จะพุ่งข้ามการยืนขวางของ Renekton ได้


OMG [Renekton+Jarven IV] เดินไล่ Vayne มาจนถึงหน้าป้อม
และดูเหมือน Vayne จะรอดไปได้อย่างหวุดหวิด
แต่ทันใดนั้นเอง 
Dragon Strike ของ Jarven IV ก็พุ่งเข้าใส่กลางหลังของ Vayne!!


และแล้ว First Blood ก็ตกเป็นของ Jarven IV ทีม OMG ไปในที่สุด!!

+++

ติดตามชมการแข่งแบบเต็มๆแมทซ์ได้ที่นี่

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

แฟนๆ E-Sport เมืองนอกเค้าเชียร์กันแบบนี้

ป้ายไฟ เสียงโห่ เสียงปรบมือ ไม่ได้ถูกครอบครองเฉพาะนักกีฬาอีกต่อไปแล้ว
ยุคนี้นักเล่นเกมก็มีแฟนคลับของตัวเองได้อย่างไม่น้อยหน้าใคร

ในงานแข่ง
LOL 2013 World Championship
แฟนๆของแต่ละทีมก็เตรียมอุปกรณ์ไว้มากมาย
เพื่อไปเชียร์ทีมโปรดของตัวเองอย่างเต็มที่
เมืองนอกเค้าเชียร์กันจัดเต็มขนาดไหนนั้น ไปดูกันดีกว่า
!!

+++

Tons of fan signs
มีทั้งตุ๊กตาบารอน ป้ายชื่อทีมทำเอง ลูกโป่งยางไว้เชียร์


Tons of fan signs
เชียร์เฉพาะคน ก็มีทำป้ายมาให้ด้วย(เมืองไทยแฟนคลับพี่เสกก็เอาบ้างดิ)

Tons of fan signs
สาวๆก็มีไม่น้อยนะ ...โดยเฉพาะสาวแว่นคนนั้น

Tons of fan signs
ป้ายทำกันง่ายๆไม่ต้องมีอะไรมาก ขอให้เห็นชัดเป็นหลัก

Tons of fan signs
ฟิวเจอร์บอร์ด+ปากกา+ฝีมือ

Tons of fan signs
มาเชียร์เป็นคู่ ใส่หมวกเหมือนกันน่าอิจฉามั่กๆ

Tons of fan signs
บางคนก็แซวกันออกสื่อ (ในภาพ:แครี่ที่ดีต้องซื้อ Ward)

Group Stages Day 3
แข่งเสร็จมีเซ็นเสื้อให้แฟนๆด้วย

Group Stages Day 3
คนดูใส่หมวกไอ้ปุยระหว่างวิเคราะห์เกมไปเชียร์ไป

Faces of lolesports
Soraka ก็มาเชียร์ด้วย

Faces of lolesports
เรามาทำกองเชียร์ของไทยให้มีสีสันแบบนี้กันเถอะ

วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Todayi Read – สนใจคู่สนทนาเสียบ้าง


                มันมีเวทย์มนต์ในจิตใจของมนุษย์เราแบบหนึ่งซ่อนอยู่ ความรู้สึกสุขสงบจะครอบคลุมไปทั่วทุกอณูของจิตใจในยามที่เราไม่ต้องการเกียรติยศ ชื่อเสียง หน้าตา หรือความสนใจใดๆ ในยามที่เรายอมปล่อยสิ่งเหล่านี้ให้กับผู้อื่นแทนที่จะกระหายเก็บเอาไว้กับตัวเอง

                ความต้องการเป็นที่สนใจที่ไม่มีวันพอของเราคืออีโก้ที่อยากให้โลกใบนี้มีเราเป็นศูนย์กลาง อีโก้นี้จะตะโกนว่า “มองมาที่ชั้นสิ ชั้นเป็นคนพิเศษนะ เรื่องของชั้นน่าสนใจกว่าเรื่องที่คุณพูดเยอะเลย” มันเป็นเสียงตะโกนที่อยู่ในใจของเราที่ไม่มีคนอื่นได้ยิน เจ้าอีโก้นี้เชื่อว่า “ความสำเร็จของเราย่อมสำคัญกว่าความสำเร็จของใครๆ” อีโก้นี่แหละที่ทำให้เราอยากมีคนสนใจ มีคนฟัง มีคนเคารพ และมีคนเห็นว่าเราเป็นคนพิเศษ  

สิ่งที่อีโก้เราต้องการเป็นสิ่งที่ต้องชิงมาจากผู้อื่น มันนี่เองที่ทำให้เราชอบพูดขัดคอเวลาคู่สนทนากำลังพูด และ ทำให้เราขาดความอดทนรอให้ถึงโอกาสพูดของตัวเอง คนที่มีอีโก้สูงจึงพยายามดึงบทสนทนาและความความสนใจทั้งหมดกลับมาที่ตัวเองตลอดเวลา

พวกเราหลายคนมีนิสัยเช่นนี้ ซึ่งมันก่อให้เกิดความเสียหายโดยที่เราไม่รู้ตัว เวลาที่เราพยายามดึงบทสนทนากลับมาเป็นเรื่องของเรา เรากำลังค่อยๆทำลายความสุขของคู่สนทนาไปทีละน้อย มันเป็นการสร้างช่องว่างระหว่างเรากับคู่สนทนาให้กว้างขึ้น และท้ายที่สุดจะไม่มีใครได้ประโยชน์จากพฤติกรรมนี้เลย

โอกาสหน้า เวลามีใครบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จของเขากับเรา ตั้งสติให้ดี อย่าพูดเรื่องของเราเวลาแทรกกลับไป ปล่อยให้คู่สนทนาได้เพลิดเพลินกับเรื่องราวที่เขาพูดอย่างเต็มที่เสียบ้าง

ถึงแม้ว่านิสัยนี้ยากที่จะแก้ไข แต่โดยทั่วไปแล้ว เราจะมีความสงบมากขึ้น ยามที่เราสยบอีโก้ของเราเองให้เงียบลง และปล่อยตัวเองให้มีส่วนร่วมในความสำเร็จที่ผู้อื่นนำมาเล่าให้เราฟัง มันไม่เป็นการดีเลยที่จะขัดคอผู้สนทนาด้วยประโยคทำนองว่า ”ตอนที่ชั้นทำเรื่องแบบนั้นนะ” หรือ “รู้ไหมวันนี้ชั้นทำอะไร” คราวหน้าเวลามีใครมาเล่าอะไรให้ฟัง กัดลิ้นตัวเองให้นิ่ง รอฟังเรื่องที่อีกฝ่ายเล่าให้จบก่อน แล้วดูซิว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

ลองพูดว่า ”โอ้ นั่นเยี่ยมไปเลย” หรือ “แล้วเป็นยังไงต่อ เล่าสิ เล่าสิ” ดูบ้าง รับรองคู่สนทนาจะตาเป็นประกายและพูดต่ออย่างมีความสุขมากๆ นั่นเพราะเรากำลังฟังสิ่งที่เค้าพูดอย่างตั้งใจ เค้าจะไม่รู้สึกว่าเราเป็นปรปักษ์ ผลของการทำเช่นนี้จะทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่ใกล้เรา เพราะเราเป็นคนที่ทำให้เค้ามีความมั่นใจและรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนน่าสนใจ อีกทั้งเราเองก็จะผ่อนคลายด้วยเช่นกัน เนื่องจากไม่ต้องนั่งเซ็งอยู่บนเก้าอี้และรอว่าเมื่อไหร่จะถึงตาเราพูดเสียที

แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีเวลาที่เหมาะสมในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของกันและกัน และการแบ่งปันต้องเป็นการสนทนาสองทาง ไม่ใช่เอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว 

เราเชื่อกันว่าการได้รับความยอมรับและความมั่นใจเป็นสิ่งที่ต้องได้มาจากผู้อื่น แต่มันย้อนแย้งตรงที่เมื่อเรายอมให้ผู้อื่นได้เกียรติ ได้หน้า ได้พูดอย่างเต็มที่ ความต้องการจะเป็นจุดสนใจของเราจะถูกแทนที่ด้วยความมั่นใจจากภายใน เราได้รับเกียรติยศ ได้รับความสนใจ จากการที่เรายอมปล่อยให้ผู้อื่นได้รับมันไปก่อนซะอย่างงั้น

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

52 ร้านที่ต้องกินก่อนตาย

ไปเห็นมาจากเพจ อีดอกตอบ เลยเอามาลงไว้ที่นี่ 
เผื่อเอาไว้เปิดอ่านเวลาผ่านไปแถวนั้นจะได้กิน


เครดิตภาพจาก Openrice.com


52 ร้านที่ต้องกินก่อนตาย 1. โจ๊กสามย่าน 
2. ข้าวราดแกงวัดเล่งเน่ยยี่ : ในซอยมังกร ข้างวัดเล่งเน่ยยี่ถนนเจริญกรุง
3. โจ๊กหม้อดิน ซอยมหาดไทย
4. ข้าวขาหมูสีลม อยู่ในซอยตรงข้างโรงพยาบางเลิดสิน คนแถวนั้นรู้จักในนามขาหมูโกโก้
5. ข้าวมันไก่ตอน ประตูน้ำ
6. ข้าวหมูแดงสีมรกต ตรอกโรงหมูตรงข้ามวัดไตรมิตร
7. ข้าวขาหมู เหม่งจ๋าย
8. ข้าวผัดปู ห้าแยก ณ ระนอง
9. ร้านเต้าหู้ทอด เผือกทอด น้ำจิ้มรสเด็ด จตุจักร โครงการ 2 ซอย 2
10. ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสศรีย่าน
11. ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเด้งได้ ท่าน้ำราชวงศ์
12. หมี่กรอบจีนหลี สมัย ร.5 ท่าน้ำตลาดพลู
13. ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย สมทรงโภชนา ซอยวัดสังเวช ถนนท่าพระอาทิตย์
14. ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาโบราณ จันทบุรี วัดตรีทศเทพ
15. ก๋วยเตี๋ยวไหหลำ สะพานขาว ถนนลูกหลวง ใกล้โรงหนังแอมบาสเดอร์เก่า
16. เย็นตาโฟวัดแขก ถนนสีลม
17. ไก่ย่างแม่วันเพ็ญ ซอยอาภาภิรมย์
18. กระเพาะปลาน้ำแดง ตลาดสวนหลวง ใกล้สนามกีฬาแห่งชาติ
19. ร้านครัวอรรถรส ซอยเสือใหญ่อุทิศ
20. ส้มตำจตุจักร ฝั่งตรงข้ามตลาด อ.ต.ก.
21. ปลาหมึกย่างสยามสแควร์ สยามสแควร์ซอย 4
22. ไก่ทอด 7 กระทะ จากแยกรัชดา-สุทธิสาร มุ่งหน้าสู่แยกที่จะลัดออกสู่ลาดพร้าวอยู่ทางซ้ายมือ
23. ไก่ทอดเจ๊กี ซอยโปโล ตรงข้ามสวนลุมพินี
24. เป็ดย่างพูลสิน เลยวัดตรีทศเทพมาเล็กน้อย
25. ห่านพะโล้ฉั่วคิมเฮง ตรงมาจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ข้ามแยกคลองตันมาถนนพัฒนาการ จะเห็นร้านใหญ่ซ้ายมือ
ร้านดั้งเดิมปัจจุบันยังอยู่ท่าดินแดง ชื่อฉั่วกิมฮวด เก่าแก่จนได้รับฉายาว่าเป็นห่านสามชั่วคน
26. ไก่ย่างจิรพันธ์ ถนนรามคำแหง
27. เนื้อย่างเกาหลี สูตรบึงพลาญชัย หมู่บ้าน ต.รวมโชค ซอยโชคชัย 4
28. สะอาด ถนนอิสรภาพ ใกล้สี่แยกบ้านแขก
29. ห่านพะโล้สะพานเหลือง ริมถนนพระราม 4
30. ร้านกาแฟโบราณเอี๊ยะแซ ถนนเยาวราช-พาดสาย
31. ขนมเบื้องวังเดิม ดิโอลด์สยามพลาซ่า
32. ไอศกรีมทิพรส สี่แยกเตาปูน
33. ร้านขนมไทยหวานดำรงค์ สี่แยกศรีวรา
34. ถั่วแปบ ซอยละลายทรัพย์
35. ปอเปี๊ยะ/ มะตะบะ ท่าพระจันทร์
36. โรตีกรอบ หน้าเพาะช่าง
37. เซ็งซิมอี๊ ตลาดสวนหลวง
38. ลอดช่องสิงคโปร์ วงเวียน 22
39. ไอศกรีมไข่แข็ง ตลาดสวนหลวง
40. ซ่าหริ่มชูถิ่น
41. มนต์ นมสด ตรงข้าม กทม.
42. ราดหน้า 4 สี ร้านชิ้งกี่ อยู่ใกล้สวนรมณีย์นาถ
43. ผัดไทยสำราญราษฎร์ ตั้งอยู่ตรงข้ามประตูผีวัดสระเก
44. เย็นตาโฟประตูผี เลยร้านผัดไทย
45. ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ซอยตรงข้ามโรงพยาบาลกลาง
46. ก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล ซอยข้างตลาดวรจักร
47. ข้าวมันไก่เจ๊ยี ตรงข้ามวัดสระเกศ
48. ข้าวต้มปลา 5 แยก พลับพลาไชย
49. ก๋วยเตี๋ยวหลอด ซอยข้างสถานีตำรวจพลับพลาไชย
50. ก๋วยจั๊บเผ็ด ซอยโรงเลี้ยงเด็ก
51. ก๋วยเตี๋ยวหลอดเยาวราช ถนนเยาวราชฝั่งขวา ก่อนแยกเข้าถนนผดุงด้าว
52. เกาเหลา เนื้อตุ๋น เจ้ผอม ตลาดปีระกา อยู่ที่เวิ้งนครเกษม

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Todayi Read – ทำสิ่งดีๆกับผู้อื่น และ จงเก็บเรื่องนั้นเป็นความลับ


                เมื่อพวกเราทำสิ่งดีๆอะไรก็ตาม เราก็มักจะเอาเรื่องนั้น ไปเล่าให้กับบุคคลที่สามฟังเสมอ ราวกับต้องการให้มีคนมาคอยอนุมัติความดีที่ได้ทำไปยังไงยังงั้น

                เวลาเราเล่าเรื่องหรือแบ่งปันสิ่งดีๆที่เราได้ทำไป มันทำให้เรารู้สึกเหมือนเราเป็นคนที่มีค่ามากขึ้น การเล่าเรื่องทำให้เรารู้สึกว่า เราเป็นคนที่ดีขนาดไหน และเราควรจะได้รับอะไรจากจิตใจที่ดีมีเมตตาเช่นนี้

                การทำสิ่งที่ดีนั้นเป็นเรื่องงดงามโดยเนื้อแท้ของมันอยู่แล้ว แต่มันยังมีสิ่งที่วิเศษไปกว่านั้นอีก “นั่นคือการทำสิ่งดีๆและเก็บมันไว้เป็นความลับ ไม่เล่าให้ใครล่วงรู้ถึงเรื่องที่เราได้ทำมาเลย” แน่นอนว่า คุณรู้สึกดีเมื่อได้เล่าเรื่องที่ทำให้คนอื่นฟัง แต่การเก็บเรื่องดีๆที่เราทำไว้กับตัวเราคนเดียวนั้นจะทำให้ความรู้สึกในทางบวกคงอยู่กับเราเพียงผู้เดียว ไม่ลดน้อยลงไปเฉกเช่นการนำเอาเรื่องที่ทำดีแล้ว ไปเล่าให้ผู้อื่นฟัง

                เรื่องจริงก็คือคนเราควรเป็นผู้ให้เพื่อความสุขของการให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ นั่นเป็นความรู้สึกเดียวกับการทำดีโดยไม่เล่าเรื่องทีทำให้ใครฟัง ...เราทำโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน รางวัลที่เราจะได้รับจากการเก็บเรื่องราวเป็นความลับก็คือความสุขในใจที่เอ่อล้นออกมาเองจากการ”ทำดี”


คราวหน้าเวลาที่เราทำสิ่งดีๆ ลองเก็บเรื่องนั้นเป็นความลับไว้ในใจดูสิ แล้วจะรู้ว่าความสุขของการเป็นผู้ให้โดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทนใดๆเลยมันรู้สึกดีขนาดไหน

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Todayi Read – อย่าพูดแทรกเวลาที่ผู้อื่นพูด



                เมื่อไม่กี่ปีมานี้เองที่ผมตระหนักได้ว่า ผมพูดแทรกหรือจบประโยคของคู่สนทนาบ่อยแค่ไหน หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็รู้ด้วยว่านิสัยนี้มันสร้างความเสียหายให้กับชีวิตได้มากกว่าที่คิด ไม่เพียงแต่ต้องเสียความรักและความเคารพที่ได้จากผู้อื่นไป แต่ยังต้องเสียพลังงานมากมายมหาศาลไปกับการคิดแทนคู่สนทนา พร้อมๆกับคิดเรื่องของตัวเองไปด้วย ลองจินตนาการดูสิ เมื่อคนสองคนที่ต่างก็รีบพูดเรื่องของตัวเองมายืนดัวยกัน พอเราแทรกคู่สนทนาหรือจบประโยคที่เค้ากำลังพูดค้างอยู่ เราไม่เพียงแต่ต้องเรียบเรียงเรื่องราวในหัวของเราเท่านั้น แต่เราต้องคาดการณ์ยาวไปถึงความคิดในหัวของคู่สนทนาที่เราพูดแทรกด้วย

                ด้วยนิสัยที่ต่างฝ่ายต่างก็พยายามจะพูดแทรกกัน ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายต้องเร่งสปีดทั้งในการพูดและการคิด นั่นเองที่ทำให้ทั้งทุกคนประหม่า ฉุนเฉียว และหงุดหงิด บทสนทนาจบลงด้วยความเหนื่อยล้า ในบางครั้ง การพูดแทรกยังก่อให้เกิดการโต้เถียงอย่างรุนแรงได้ด้วย เพราะมีสิ่งหนึ่งที่คนทุกคนย่อมไม่พอใจก็คือ การที่ต้องคุยกับคนที่ไม่ฟังในสิ่งที่ตัวเองพูด เราจะฟังสิ่งที่คนอื่นพูดได้อย่างไร ถ้าหากเราพูดแทรกเวลาเค้าพูดตลอดเวลา

                เมื่อรู้ตัวว่า เรากำลังพูดแทรกผู้อื่น เราจะเริ่มมองเห็นเจ้านิสัยไม่ดีนี้ที่หลบสายตาเราตลอดมา การรู้ตัวถือเป็นข่าวดีเพราะมันคือขั้นตอนแรกของการแก้นิสัยนี้ ขั้นตอนต่อไปก็คือ เราต้องมีสติเตือนตัวเองตลอดเวลาไม่ให้ลืมตัว เตือนตัวเอง(ก่อนการสนทนาถ้าเป็นไปได้)ว่าให้อดทนและรู้จักรอ บอกตัวเองเสมอว่า รอให้อีกฝ่ายพูดจบประโยคก่อนแล้วค่อยพูด

ในเวลาไม่นานคุณจะรู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น คนที่เราพูดคุยด้วยจะรู้สึกผ่อนคลายเพราะเค้ารู้ว่ามีคนฟังในสิ่งที่เค้าพูดอยู่ และ เราก็จะรู้สึกผ่อนคลายแบบนั้นเช่นกัน อัตราการเต้นของหัวใจจะช้าลง เราจะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการสนทนา มากกว่าจะเป็นการรีบคุยให้มันจบๆไป

                การฟังผู้อื่นพูดให้จบโดยไม่พูดแทรกนี้ถือเป็นวิธีการง่ายๆที่ทำให้เราเป็นคนที่น่ารักและน่าคบหามากขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Todayi Watch – มาดูยุงแบบโคตรซูมกันเถอะ


ยุงนี่ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของคนไทย ไม่สิคนทั่วโลก มาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ถ้ายุงมากัดนี่น้อยคนนักที่จะตัดใจไม่ตบได้ แม้แต่คนพุทธที่ถือศีลไม่ฆ่าสัตว์ก็ตาม(ฮา)
ล่าสุดไปเวป
Theverge ได้เอาคลิปของ Natinal Geographic
ที่ซูมปากของยุงตอนกำลังชอนไชเข้าไปในผิวหนังของหนูทดลองมาให้ดู
...ใครที่เกลียดอะไรแบบนี้ควรข้ามบล้อคนี้ไปให้ไวนะครับ

.
.
.
เตือนแล้วนะเออ




จากในคลิปเราจะเห็นได้ว่าปากของยุงมีความยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก
มันไม่ได้เสียบทะลุผิวหนังของเหยื่อเข้าไปตรงๆ
มันสามารถเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ซอกซอน เพื่อหาหลอดเลือดที่จะให้มันดูดได้อย่างอิสระ
ดังนั้นเลยเลิกแปลกใจแล้วว่า ใส่กางเกงตั้งหนา แล้วยุงมันกัดทะลุมาได้ไงวะ

ไหนๆก็เห็นภาพปากยุงกันไปแล้ว
ทีนี้ลองมาดูวีดีโอยุงตอนดูดเลือดกันบ้าง
วีดีโอนี้มีความยาว 6 นาที เราจะได้เห็นยุงตั้งแต่ตัวเล็กๆก่อนดูดเลือด
ไปจนถึงตอนที่มันดูดเลือดเต็มท้อง จนเป็นบอลลูนเลือดลอยได้
...ห้ามใจไม่ให้อยากตบยากชะมัดบอกตรงๆ



เกร็ดความรู้ – ยุงไม่ได้กินเลือดเราเป็นอาหาร ยุงกินเลือดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
เพื่อใช้ในการวางไข่เท่านั้น อาหารหลักของยุงคือน้ำหวานจากดอกไม้ คล้ายๆผีเสื้อนั่นแหละ